วิธีการยืดพลังงานในแบตเตอรี่มือถือให้ยาวนานขึ้น
หลายๆคนคนประสบปัญหากับการใช้งานมือถือหรืออุปกรณ์พกพามนเรื่องของแบตเตอรี่หมดเร็ว หรือหมดเร็วกว่าปกติ จากประสบการณ์แล้ว, แน่นอนครับว่าการสนทนาเป็นเวลานานๆนั้นจะทำให้แบตหมดเร็ว แต่ในยุคนี้เรากำลังอยู่กับ Smart Phone และการทำงานของแอพต่างๆที่ซับซ้อน ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะให้แบตเตอรี่คุณหมดไปโดยไม่รู้ตัว เรามาดูกันว่าอะไรทำให้แบตเตอรี่เราหมดเร็วได้บ้าง
* ข้อมูลจาก Tutorial ของแอพ Easy Battery saver, option ในแอพ Easy Task Killer
[Full Charging]
เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ของคุณ แนะนำว่าควรจะชาร์จแบตเตอรี่เมื่อระดับพลังงานน้อยกว่า 20% และในทุกครั้งการชาร์จ คุณควรจะชาร์จให้เต็ม 100% ในครั้งเดียว ไม่ควรถอดออกจากที่ชาร์จก่อน
[Suitable temperature]
อุณหภูมิในการชาร์จแบตเตอรี่อยู่ที่ 0-45 องศาเซลเซียส, ซึ่งถ้าชาร์จแบตเตอรี่ไว้ที่อุณหภูมิต่ำหรือสูงกว่านี้จะเป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่ ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่ในที่ที่รับแสงแดดโดยตรงหรืออุณหภูมิสูง
** แอพ Beautiful Battery disc มี Widget สำหรับบอกอุณหภูมิของแบตเตอรี่อยู่ด้วย **
[Breathe Freely]
ให้จำไว้ว่าให้ถอด Cover หรือ Jacket (หรือที่เราเรียกกันภาษาชาวบ้านว่า ปลอกหุ้มมือถือ) ในขณะที่ชาร์จมือถือ แน่นอนครับว่ามันไม่เป็นผลดีต่อแบตเตอรี่ของเราแน่เพราะว่ามันเป็นตัวสะสมความร้อน
[Disable WiFi]
ถึงแม้ว่าคุณจะสะดวกสบายกับการใช้งาน WiFi ตามสถานที่ต่างๆ แต่โปรดจงจำไว้ว่า Chip ตัวที่รับสัญญาณ WiFi นี่แหละที่มันกินแบตเตอรี่คุณไปเปล่าๆ และกินไฟมากกว่าการใช้งาน 3G เมื่อคุณไม่ได้ใช้มันก็ปิดมันเถอะครับ
การใช้งาน 3G หรือ 4G (ใน USA) จะกินไฟมากกว่าการใช้งาน 2G ดังนั้น,ถ้าไม่จำเป็น ก็ปิดการใช้งาน Data 3G เถอะครับ เพราะว่าจะประหยัดแบตแล้ว ยังประหยัดโควต้าข้อมูล 3G ด้วย
** Data Enabler Widget เป็นแอพที่ใช้สำหรับเิปิด/ปิด 3G ครับ **
** My data manager เป็นแอพที่คอยเฝ้าดูการใช้งาน 3G ของแอพต่างๆในเครื่องเราครับ **
// การ check speed test บ่อยๆด้วยแอพ Speed test หรือแอพที่ทำงานคล้ายกัน, จะทำให้กินไฟเพิ่มขึ้น และยังสูญเสียดาต้าไปประมาณ 4 MB ต่อครั้งด้วยนะครับ //
ใครที่ชอบอะไรแบบเรียลไทม์มากๆ ระวังให้ดีครับ การให้แอพต่างๆอัพเดทหรือซิงค์ข้อมูลแบบ Auto-Update หรือ Auto-Sync นั้น จะทำให้แบตเตอรี่คุณลดลงแบบรวดเร็ว การเปิด Auto-sync ของอีเมล์ต่างๆก็ควรจะปิดด้วยนะครับ
[Disable Bluetooth]
ลักษณะเดียวกันกับ WiFi ครับ, Bluetooth เป็นอีกตัวที่กินไฟในแบตเตอรี่เป็นอย่างมาก ถ้าไม่จำเป็น ที่จะต้องใช้มันบ่อยๆ ก็ปิดไปก่อนครับ
[Short Screen timeout]
ตั้งค่าการแสดงผลหน้าจอ ให้ดับเองเมื่อไม่ได้สัมผัส, คุณควรจะตั้งค่าหน้าจอนี้ให้น้อยเข้าไว้ครับ แนะนำว่าตั้งค่ามากที่สุดไม่ควรเกิน 1 นาที
[Low screen Brightness]
คุณรู้มั้ยครับว่า, เกินกว่า 50 %ของพลังงานแบตเตอรี่ที่สูญเสียไปคือการส่งไปให้หน้า Screen ของมือถือเราครับ มันเป็นปัจจัยที่กินไฟแบตของเรามากที่สุดแล้วครับ แต่เราหลีกเลี่ยงให้มันกินไฟน้อยๆได้จากการตั้งค่า timeout screen จากข้อด้านบน และการปรับแสงหน้าจอให้เหมาะกับการใช้งานของเราครับ
[Disable app in background]
แอพที่รันอยู่ แต่ไม่แสดงผลให้เราเห็น แอพเหล่านี้กินไฟเหมือนกับครับ คุณควรจะปิดพวกมันลงโดยการใช้แอพ "Easy Task killer" ก็ได้ครับ
[Close Mobile Vibration]
ในเวลาที่ไม่้จำเป็นต้องเปิดการแจ้งเตือนแบบสั่น ก็ปิดไปเลยครับ ให้มีแต่เสียงก็พอแล้ว เพราะว่าการสั่นคือการจ่ายไฟให้มอเตอร์ตัวเล็กๆที่อยู่มือถือ มันกินไฟมากครับ
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการลดการใช้กระแสไฟฟ้าในมือถือของคุณครับ ทุกข้อที่นำเสนอไปก็อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานของทุกคน ดังนั้นลองประยุกต์ใช้กันดูนะครับ
Source : Tutorial/Easy Battery saver